วันจันทร์ที่ 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2551

เรื่องจริง ของเสือเตี้ย

จากดินสู่ฟ้า…จากฟ้าสู่ดิน


เรื่องหุ้นเป็นสิ่งที่เรียนรู้ไม่จบสิ้น ก็เพราะสิ่งแปลกใหม่มักเกิดขึ้นกับตลาดหุ้นอยู่ตลอดเวลา ดังนั้นสูตรสำเร็จของการเล่นหุ้น ก็คงไม่มีเช่นกัน

แต่หากเราจ้องการที่จะศึกษาภูมิหลังจากประสบการณ์จริงของผู้ที่โลดแล่นในตลาดทุนบางคน ซึ่งประสบการณ์ล้มเหลวบ้าง สำเร็จบ้าง แล้วนำมาเป็นกรณีศึกษา...เพื่อประยุกต์ใช้เป็นเกาะป้องกันความเสี่ยงและค้นหาประโยชน์จากการลงทุน ก็คงช่วยได้ในระดับหนึ่ง

ในเดือนนี้ ผมขอนำเสนอเรื่องราวของนักเล่นหุ้นที่มีประสบการณ์โชกโชน โดยขออนุญาตใช้นามสมมติของเขาผู้นี้ว่า เสือเตี้ย แต่ทุกอย่างคือเรื่องที่เกิดขึ้นจริงในตลาดทุนแห่งนี้



หากเอ่ยนามว่า เสือเตี้ย ผู้คนที่ได้ยินชื่อนี่ก็คงจะพอวาดภาพออกถึงบุคลิกและท่าทางของเขาได้เป็นนัย ๆ แล้ว แน่นอนครับ เขาผู้นี้ต้องมีรูปร่างสันทัดไม่สูงโปร่งแน่ ถึงจะตัวเล็ก...แต่ เสือเตี้ย คนนี้จัดเป็นคนใจร้อน เอาเรื่องเหมือนกันครับ

หลังจากที่ เสือเตี้ย เรียนจบจากสถาบันการศึกษา จากย่านเมืองนนทบุรีแล้ว เขามุ่งสู่ตลาดหุ้นด้วยจิตใจแน่วแน่ถึงชัยชนะที่เขาคิดจะคว้ามันมาให้ได้ จากการเรียนรู้เรื่องหุ้นไปพร้อม ๆ กับการศึกษาเล่าเรียนในเชิงช่าง และด้วยใจรักในการลงทุน เขาจึงมุ่งหน้าสู่ตลาดหุ้นในช่วงปี 2521

ด้วยเม็ดเงินเริ่มต้นที่เก็บหอมรอมริบ รวบรวมได้กว่า 3 หมื่นบาท เสื้อเตี้ยนำเงินก้อนแรกโยนใส่หุ้นแบงก์กรุงเทพฯ เป็นการซื้อหุ้นครั้งแรก และตัวแรกของเขาเลยทีเดียวครับ ด้วยเหตุผลมุมคิดที่ว่า ในยุคนั้นแบงก์คือสถาบันการเงินที่มีอิทธิพลต่อธุรกิจอื่นใดทั้งสิ้น เขาคิดว่าธุรกิจใดที่จะเข้มแข็งได้นั้นจำเป็นต้องพึ่งพิงแบงก์เท่านั้น

ก็ไม่ได้ผิดอะไรไปจากความคิดเบื้องต้นต่อการลงทุนของเขา หุ้นแบงก์กรุงเทพฯ ทำให้เขาได้กำไรไปกว่า 20% จากเงินลงทุนเพียงชั่วแค่ไม่ถึง 3 เดือน !!!

เบื้องต้นนี้ เสือเตี้ย จัดเป็นคนที่เล่นหุ้นแบบค่อย ๆ เป็น ค่อย ๆ ไป ไม่ชอบเสี่ยงเท่าไร กลยุทธ์นี้จึงทำให้เขาสามารถเก็บเล็กผสมน้อยกวาดกำไรจากตลาดทุนได้เรื่อง ๆ แม้ภาวะตลาดในยุคนั้นจะซบเฐาเพราะวิกฤติราชาเงินทุนล้มก็ตาม

เพียงชั่ว 2-3 ปี เสือเตี้ย ก็สามารถ “ปั๊มเงิน” จากตลาดหุ้นได้ โดยมีเงินสด ๆ ในมือรวมกันแล้วเกือบห้าหมื่นบาท

เสือเตี้ย มาประสบความสำเร็จจากการเล่นหุ้นอย่างจริงจัง ก็ช่วงปี 2526 ซึ่งภาวะหุ้นเริ่มฟื้นตัวอย่างจริงจังหลังจากที่ภาวะเศรษฐกิจมีอัตราการเติบโตก้าวกระโดด ดังนั้น เขาจึงไม่ยอมพลาดโอกาสทอง เขาซื้อหุ้น “ปูนใหญ่” เก็บเข้าพอร์ตกอดไว้ พร้อมทั้งเจียดเม็ดเงินบางส่วน สู้หุ้นในเชิงเก็งกำไรซื้อมาขายไป จนสามารถทำกำไรได้อย่างเป็นกอบเป็นกำ


เสือเตี้ย สะสมกำไร ได้ตัวเลขเกือบ 7 หลัก จากนั้น เขาก็นำเงินที่ค้ากำไรได้จากตลาดหุ้นทั้งหมด ไปฝากกินดอกเบี้ย พร้อมกับเปิดพอร์ตเล่นมาร์จิ้นกับเงินทุนหลักทรัพย์แห่งหนึ่ง ซึ่งในสมัยนั้น ตั้งอยู่บนชั้น 3 อาคารสยามเซ็นเตอร์

เสือเตี้ย คนนี้ พูดให้ผมฟังว่า...ในช่วงที่เขามีเงินเหยียบล้านบาท เขาเคยนั่งคิดตัวเลขถึงรายรับในแง่ของดอกเบี้ยที่สมัยนั้นได้รับสูงถึงร้อยละ 13-15% ซึ่งก็จะทำให้เขามีเงินใช้ต่อเดือนไม่ขาดมือแน่ และคงไม่จำเป็นต้องดิ้นรนทำงานหาเงินให้เหนื่อยเหมือนพวกกินเงินเดือนประจำอีกต่อไป

หลังจากที่เขาสามารถชนะตลาดหุ้นได้ เสือเตี้ย ก็เริ่มมีความเชื่อมั่นในตนเองสูงขึ้นเรื่อย ๆ พฤติกรรมการเล่นหุ้น จึงเริ่มแปรเปลี่ยน จากที่เคยเล่นหุ้นลงทุนสุขุมรัดกุม กลายเป็นฉาบฉวยคล้อยตามตลาดเน้นการเก็งกำไร

ช่วงชะตาชีวิตของเขากำลังจะพลิกผัน เมื่อ เสือเตี้ย ตามแห่ซ้อหุ้นเก็งกำไรอย่าง....มาบุญครองอบพืชและไซโล แถวระดับราคา 300 กว่าบาท ทั้งที่หุ้นตัวนี้ในแง่ของพื้นฐานแล้วดู....ไม่ดี

เพียงแต่ กระแสข่าวลือที่สะพัดในเวลานั้นเอง ที่ทำให้ เสือเตี้ย ตัดสินใจต้องซื้อหุ้นตัวนี้ ด้วยอินไซด์ว่า....จะมีรายใหญ่เข้ามาปั่นราคาโดยมีเป้าหมายที่ราคา 500 บาท

เขาจึงทุ่มซื้อเต็มพอร์ตมาร์จิ้นของโบรกเกอร์ 3 แห่งที่ตัวเขาใช้บริการอยู่ ณ วันที่เขาซื้อหุ้นมาบุญครองฯ ถัดมาเพียงแค่วันเดียว หุ้นตัวดังกล่าวได้เกิดการปรับตัวลดลงอย่างแรงจากการเทขายของรายใหญ่ บวกกับแรงตื่นตกใจของนักเก็งกำไร ที่แห่เทขายตาม จนทำให้ราคาหุ้นของมาบุญครองฯ ทรุดหนักติดฟลอร์ติดต่อกันหลายวัน

เสือเตี้ย เอง ก็หนีไม่พ้นชะตากรรม เพราะต้องถูกจับขายหุ้นตามกฎมาร์จิ้น ซึ่งโบรกเกอร์ทั้ง 3 แห่งที่เขาใช้บริการต่างเทขายหุ้นออกมาล้างพอร์ต ทำให้เกิดการขาดทุนอย่างมากมาย จนเงินที่วางค้ำมาร์จิ้นไม่เพียงพอที่ชำระหนี้ขาดทุนได้ ดังนั้น เขาจึงถูกโบรกเกอร์สั่งอายัดเงินฝากที่เขามีอยู่กับสถาบันการเงินทันที

รอบนี้...เสือเตี้ย ถึงกับหมดตัว เพราะหุ้นมาบุญครองฯ ตัวเดียวแท้ ๆ ครับ!!!

ผมยังจำได้ว่า...ช่วงที่ เสือเตี้ย มีความทุกข์เพราะโดนหุ้นกิน อารมณ์ของเขาดูหงุดหงิดไปหมด ใคร ๆ ก็พูดไม่เข้าหู เสือเตี้ย ไปเสียทุกเรื่อง

จนวันหนึ่งที่ระเบียงห้องค้าหุ้นของตลาดหลักทรัพย์ ณ อาคารสยามเซ็นเตอร์ ด้วยความเครียดนี้เอง ทำให้ เสือเตี้ย เกิดการวางมวยกับนักเล่นหุ้นอีกคนหนึ่งกลายเป็นเรื่องเป็นราวใหญ่โตกันเลยทีเดียว

วันนี้....ในตลาดหุ้นไม่เคยได้ยินข่าวของ เสือเตี้ย อีกเลยครับว่า...ตัวเขายังคงนั่งเล่นหุ้นอยู่แห่งหนไหนอีกหรือไม่ แต่ที่รู้ ๆ เสือเตี้ย ยังคงเข็ดเขี้ยวกับตลาดทุนไปแล้วล่ะครับ และคงไม่กล้าฝันหวาน หรือประมาทต่อไปอีกแน่ ๆ ว่าจะมีชีวิตที่อยู่สุขสบายกับเงินล้าน

หากตราบใดที่ยังสู้กับหุ้นอยู่....!!!????



reference
http://www.ktbstoday.com/ana2/sip_qna2.aspx?no=11